ในพื้นที่ของตะไอ / ปะหล่องนั้น การปลูกฝิ่นได้เพิ่มมากขึ้น
พิวพิวโก
นักข่าวเอกชนมอญ:พฤหัสบดี ที่ 16 พ.ค 56 :สำนักข่าวสารหงส์ทอง
ทางตอนเหนือของรัฐฉาน
ทาง อ. เมืองนามคำ พื้นที่ของปะหล่องนั้น ที่ไร่ชานั้นได้มีการปลูกฝิ่นขึ้นมาอีก
ไมไอ้เยิน (กรรมการกองบัญชาการ TNLA) กล่าว
“ ปลูกกันขนาดไหนนั้น
แม้แต่ในเขตบ้านของตนก็ปลูกใส่จนไม่เหลือที่ เมื่อก่อนนั้น (ก่อนจะถึงปี 2005)
นั้น หมูบ้านที่อยู่ในเขต อ. นามคำนี้ มีไร่ชาที่เขียวขจีอยู่ ตอนนี้ฝิ่นกลับมาเขียวขจีขึ้นมาแทน ถ้าคิดเป็นเปอร์เซนแล้ว เพิ่มมากขึ้นถึง 80 %
เลยทีเดียว”
ในการเสพฝิ่นไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้น
ผู้หญิงก็เสพฝิ่นเช่นกัน ตอนนี้
ชนเผ่าตะไอ / ปะหล่องนั้น ตามบัญชี TNLA แล้ว
เยาวชนตะไอได้จมปลักอยู่กับยาเสพติดประมาณ 70 % เข้าไปแล้ว
ที่บัญชีการปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น เพราะอะไรนั้น
เนื่องจากราคาใบชาได้ตกลงไปนั้นเอง ช่วงที่เก็บใบชาใหม่ๆนั้น ใบชาชั่งละ 5,000 จ๊าด
ตอนนี้ ใบชาชั่งละ 2,500 จ๊าดเท่านั้น
ลักษณะนี้เป็นทุกปีอยู่แล้ว ชาวตะไอที่ปลูกใบชาอยู่นั้น
ได้หันมาปลูกฝิ่นกันทั้งหมด
ช่วงที่ราคาใบชาอยู่ในราคา
2,500 จ๊าดนั้น ฝิ่นดิบหนึ่งชั่ง (หนึ่ง กก.ครึ่ง) ราคา 20 แสน (2 ล้าน) จ๊าด ด้วยเหตุนั้นเอง
ตอนนี้ที่ว่างในบริเวณบ้านก็ไม่เหลือ ปลูกฝิ่นใส่ทั้งหมด
อย่าว่าทางรัฐบาลจะเอาโทษเลย กกล.รัฐบาลเองเป็นผู้เก็บภาษี ในการกวาดล้างยาเสพติดนั้น ทำเป็นทำลายล้าง
แล้วทำเป็นถ่ายภาพเล็กน้อย แล้วกลับไปเปล่าๆ
ทางกองทัพอิสรภาพ
ชนเผ่าตะไอ TNLA เอง
ต้องพิจารณาในเรื่องธุรกิจตกต่ำของชาวตะไอ แล้วเรื่องสนับสนุนจากพวกเขา จะได้ไม่ลดลง
จึงกำหนดถึง 3 ขั้นตอน แล้วค่อยทำการกวาดล้างยาเสพติดต่อไป สามขั้นตอนที่ว่านั้น คือ (1) อันดับแรกอบรมด้วยวิชาความรู้
ให้กับประชาชน (2)
จะได้เอาความผิดอย่างเต็มรูปแบบนั้นจะไม่ทำ (แม้จะตามไปทำลายไร่ฝิ่น การปลูกฝิ่น แต่สำหรับผู้ปลูกฝิ่นจะไม่เอาโทษ ) (3)
สำหรับการซื้อขาย
(ที่ทำเป็นธุรกิจ) เท่านั้น ที่ต้องเอาโทษอย่างเด็ดขาด ด้วยวิธีการอย่างนี้ TNLA ได้ทำการกวาดล้างมา
ในการทำการกวาดล้างยาเสพติดนั้น เพราะยังอ่อนหัดอยู่นั้นเอง อีกด้านหนึ่ง จนท.ก็หลับตาไม่รู้ไม่เห็น ราคามันก็ดี แล้วการปลูกฝิ่นจึงได้เพิ่มขึ้น ฝิ่นเท่าที่ออกมานั้น ขายกันไม่พอ พวกปลูกฝิ่นก็ไม่ต้องรับโทษแต่อย่างใด
“ กลับมาทวนดูซิ
ตัวแทน อะลองเซ สว.ของสภา ขณะที่เข้าการเลือกตั้งนั้น เขาได้พูดไว้ว่า
ขอให้เลือกเขา หากเขาได้เป็นตัวแทนในสภา
เขาจะอนุญาตให้ปลูกฝิ่นให้ถูกกฎหมาย
ด้วยเหตุนั้น ทั่วทั้งพื้นที่นี้ จึงได้รวมเป็นขบวนไปปลูกฝิ่นกัน
ทางด้านปานเซ กันจนหมด ภาษีก็น้อย
จะได้ค่าขายก็ไม่ต้องหาคนซื้อ” ชาวพื้นที่นามคำ คนหนึ่งกล่าว
ด้วยสิทธิ์ในการปลูกฝิ่นดีอย่างนี้นี่เอง การปลูกฝิ่นจึงได้แพร่กระจายไปทั่วทั้ง
อำเภอนามคำ จากนั้นได้เริ่มลุกลามไปทาง
อ.เมืองก๊อดไค และ อ.เมืองมานเติง นั้นแล้วด้วย
วิถีการปลูกใบชาชาวตะไอ เอง ตอนนี้ยังมีอยู่แค่บริเวณป่าเขาปะยุ
อ.เมืองนาบซัมเท่านั้น
การปลูกฝิ่นนั้น ตั้งแต่ ปี 2005 นั้นแล้ว ได้งอกงามมาขึ้น ใบชาแห้งระดับสูงๆจากประเทศจีน
ได้เข้ามาถึงประเทศนี้แล้ว จึงทำให้ใบชาของชาวตะไอราคาตกต่ำลงมาอย่างนี้.....
0 comments:
Post a Comment