Latest Update

ေကၜာန္ဍာံဒးဒွ္၊ ေကတ္ဍာံဒးဂြံ၊ အာဍာံဒးစိုပ္

Thursday, May 16, 2013

แม้จะบอกว่าพวกลี้ภัยกลับภูมิลำเนาได้ แต่สถานการณ์ที่จะไว้วางใจได้นั้นยังไม่มีเลย

อ้ายป้อน นักข่าวเอกชนมอญ:  อังคาร ที่ 14 พ.ค 56 :สำนักข่าวสารหงส์ทอง 

                                                ภาพจาก facebook Lway Khayay Pwint
ตาม ข้อตกลงในการเจรจาของพรรค SSPP/SSA กับตัวแทนของรัฐบาลนั้น แม้จะอนุญาตให้พวกลี้ภัยกลับภูมิลำเนาได้ก็ตาม แต่สถานการณ์ ที่จะไว้วางใจได้นั้นยังไม่มีเลย  สมาชิกด้านภาษาและวัฒนธรรมระดับนายอำเภอของตะไอ/ปะหล่องและเป็นตัวแทนของ ค่ายอพยพที่ตะยานนั้นกล่าว  
“วันที่ 11 พ.ค 56 นั้น พวกเขาพบปะและเจรจากันเป็นที่เรียบร้อย  และมาดูพวกลี้ภัยชาวตะไอที่อาศัยอยู่ที่วัดอ่องมิงกะลา เมืองตะยาน พร้อมกับพูดว่าต่อไปนี้การสู้รบไม่มีอีกแล้ว กลับกันได้แล้ว และพูดว่าจะส่งกลับอีกด้วย แม้จะแบ่งข้าวแล้วปล่อยให้กลับไปได้ แต่สำหรับพวกเขาแล้วความสงบสุขนั้น ยังไม่น่าไว้วางใจได้เลย ”
ใน วันที่ 11 พ.ค 56 นั้น ตัวแทน SSPP กับตัวแทนของรัฐบาลได้พบปะเจรจากันที่เมืองตะยาน  ตัวแทนของรัฐบาลกล่าวว่า ที่เมืองตะยานนี้มีชาวปะหล่องลี้ภัยสงครามอยู่ประมาณ 600 คน แต่ทาง TNLA นั้นกล่าวว่า  ในพื้นที่ปะหล่องนั้น มีผู้ลี้ภัยสงครามชาวปะหล่องประมาณ 3,000 คน
ใน วันที่ 12 พ.ค 56 นั้น พ.ต.ไซละของ SSPP/SSA ได้มาพบปะกับพวกลี้ภัยชาวตะไอที่เมืองตะยาน  แล้วได้ให้การช่วยเหลือ ข้าวสาร 400 กระสอบ  แล้วค่ายอพยพสองค่ายที่อยู่ในเขตเมืองมอก่อง ก็ได้ไปให้การช่วยเหลือข้าวสาร 600 กระสอบ เช่นกัน  อูหม่องโก กล่าว   นอกจากนั้น “ ที่ยิงกันอยู่ในขณะนี้นั้น  เพื่อที่จะได้ยุติลงนั้น ได้เจรจากับตัวแทนของรัฐบาลไว้แล้ว  กลับภูมิลำเนาของตนได้”  พ.ต.ไซละ ก็กล่าวไว้เช่นกัน
“ ว่าไม่ยิงกัน  แม้จะพูดอย่างนั้น  แต่สถานการณ์ใช่ว่าจะไว้วางใจได้   ที่ได้เห็นกันตามตา คือผู้ลี้ภัยชาวคะฉิ่นที่อยู่ในรัฐคะฉิ่นนั้นเอง  ฝ่ายรัฐบาลพูดอยู่บ่อบๆว่า ไม่มีการสู้รบอีกแล้ว กลับกันได้  แต่ว่าการสู้รบนั้นยังมีอยู่จนทุกวันนี้   ตอนนี้สำหรับผู้ลี้ภัยตะยานนั้น  คิดว่ายังไม่สงบสุขเป็นแน่”
ใน พื้นที่ของปะหล่องนั้น   กำลังพลสำรองของรัฐบาลมีอยู่ประมาณ 4,000 นาย  แล้วได้ทำการบุก  KIA   TNLA และ SSPP ที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน   ในวันที่ 19 มี.ค 56 ที่ผ่านมานั้น ได้ออกคำสั่งทหารไว้แล้ว   เนื่องจากต้องโจมตีขับไล่กกล. SSPP/SSA ให้ออกจากสันเขาลัวลานและสันเขาลัวเซนั้นเอง ทำให้ประชาชนในรัฐฉานต้องลี้ภัยสงครามกันเป็นจำนวนมาก
เพื่อ ให้ผู้ลี้ภัยสงครามจะได้กลับภูมิลำเนาของตนนั้น ไม่ว่าทางรัฐบาลจะพูดอย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ลัวลาน  ลัวเซ และพื้นที่ของกองพลน้อยที่ 4 ของ KIA ที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานนั้น กกล.ของรัฐบาลเต็มทั่วพื้นที่และยังกระจัดกระจัยอยู่อีก และพร้อมที่จะเกิดการปะทะกันได้ทุกเมื่อ  ประชาชนในพื้นที่พากันกล่าว
กอง หนุนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวนั้น  หากทางรัฐบาลถอนออกไป ผู้ลี้ภัยทั้งหลายก็จะพากันกลับภูมิลำเนาของตนยังแน่นอน  อยากจะพ้นอันตรายจึงต้องทิ้งบ้านช่องพากันหนีเพื่อเอาตัวรอด      ไม่ว่าใครก็อยากจะกลับภูมิลำเนาของตนกันทั้งนั้น   ที่ชีวิตต้องเป็นผู้ลี้ภัยสงครามนั้น ผู้กระทำเป็น กกล.ของรัฐบาลเอง   ตอนนี้ยุให้กลับไปอีกนั้น เป็นการเรียกร้องความสนใจเท่านั้นเอง ประชาชนในพื้นที่พากันกล่าว
ที่ กดขี่ข่มเหง ทรานฆ่าและละเมิดทางเพศนั้น กกล.รัฐบาลเองเป็นผู้กระทำไว้  ได้เคลื่อนกกล.มาอย่างมากมากแล้วมาทำสงครามนั้น  เป็นเหตุจูงใจให้ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหาย แล้วก่อให้เกิดผู้ลี้ภัยสงครามขึ้นมาก็เพราะการก่อสงครามของรัฐบาลนั้นเอง   กลุ่มอำนวยความสะดวกด้านมนุษย์คอยดูแลอยู่
สำหรับ ผู้ลี้ภัยที่มาถึงเมืองตะยานนั้น  กลุ่มอำนวยความสะดวกด้านมนุษย์ ของ(ไทยใหญ่) ที่ใช้นามว่าเมตตาซิดไวย์(เมตตาวงใหม่) ได้เปิดศูนย์ขึ้นมา แล้วรับหน้าที่คอยดูแลและให้การช่วยเหลืออยู่ .....

0 comments:

Facebook Fan Page