.jpg)
กกล. SSPP กับ กกล.รัฐบาล สถานการณ์ตึงเครียดอยู่
อ้ายป้อน นักข่าวเอกชนมอญ:อังคาร ที่ 30 เม.ย 56 : สำนักข่าวสารหงส์ทอง
+05.jpg)
กกล. SSPP (ภาพ – อินเตอร์เน็ต)
พรรคชาติพัฒนารัฐฉาน SSPP/SSA จะต้องออกไปจากเนินเขา
ลัวลานนั้น กกล.รัฐบาลได้เคลื่อนพลบุกขึ้นมาด้วยกำลังพล แล้วยังทำการขับไล่อยู่ พ.อ. เพิงพะ ((ผู้ประสานงานด้านต่างประเทศของ
SSPP/SSA) กล่าว
“ ตอนนี้
ทางด้านลัวลาน, ลัวเซ, ลัวคอกและลัวชอ ที่อยู่ระหว่าง
อ.เมืองตะยานกับไมชูนั้น
กกล.รัฐบาลไดเสริมกำลังพลไว้ ประมาณ 2,000 คน ด้วยเหตุนั้น เพื่อป้องกันตนเอง พวกเราเองก็เตรียมความพร้อมกำลังพลไว้เช่นกัน เร็วๆนี้ แม้ยังไม่เกิดการปะทะกัน
แต่สถานการณ์นั้น ยังตึงเครียดอยู่”
เกี่ยวกับการขับไล่กกล.
SSPP/SSA ออก ที่มีอยู่ในบริเวณ อ.เมืองตะยานกับอ.เมืองไมชู (ทาง ตอ. / น.ของรัฐฉาน ) นั้น ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค
56 ที่ผ่านมานั้นแล้ว
กกล.รัฐบาลได้เริ่มมาโจมตี SSPP/SSA
เองจะถอยออกจากจุดนี้คงไม่ได้อีกแล้ว ได้ส่งข่าวไว้แล้ว พ.ต.ไซละ กล่าว
สันเขาลัวลานนั้น
สำหรับด้านสมรภูมิแล้ว เป็นจุดสำคัญมาก
เป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่ง
หากถอยออกจากเนินเขานี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น SSPP/SSA และพรรคของว้า
UWSA ก็ตกอยู่ใต้อำนาจของกกล.รัฐบาลอย่างแน่นอน SSPP กับ UWSA ได้สร้างสัมพันธ์ไมตรีด้านการทหารไว้ด้วย
เกี่ยวกับด้านการทการแล้ว ได้มีการร่วมมือกันอยู่ด้วย พ.ต.ไซละ กล่าว
ทาง SSPP เอง
เนื่องจากไม่ประสงค์กับปัญหานั้นเอง เมื่อวันที่
25 มี.ค 56 จึงได้สั่งให้ จนท. 3 นาย ให้ไปประชุมไกล่เกลี่ยกับ พล ท.อ่องซอ(แม่ทัพภาค
ตอ. / น.) ไว้แล้ว แต่ไม่คลี่คลายลง จึงได้เกิดการปะทะกันขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากกกล. SSPP ไม่ยอมหลีกออกไปจากจุดนั้น
จะปฏิบัติตามคำสั่งจากเบื้องบนแล้วจะทำการขับไล่ออกให้ได้นั้น พล ต.อ่องซอ
ได้มีการกล่าวข่มขู่ไว้แล้ว
ด้วยเหตุนั้น
เมื่อวันที่ 27 มี.ค 56 จึงได้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ฝ่ายรัฐบาลเองลำบังแค่กกล.ที่อยู่ในพื้นที่นั้น
ใช่ว่าจะเอาชนะ SSPP ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น
จึงได้เตรียมความที่จะเสริมกำลังพลขึ้นมา
SSPP กล่าว
เพื่อที่จะได้เพิ่มกำลังพลนั้น
ต้องใช้เวลาอีก และเพื่อที่จะได้ตรึงกำลังพลนั้น ฝ่ายรัฐบาลจึงต้องถอยไปหนึ่งก้าว แล้วลดการโจมตีลง เมื่อวันที่ 3 เม.ย
56 นั้น คณะสร้างสันติภาพของรัฐบาล ไปพบปะเจรจากับ SSPP ที่เมืองลาโช
SSPP นั้น แม้ได้เจรจากับคณะสร้างสันติภาพของรัฐบาลมาแล้วหลายครั้งมาแล้วก็ตาม
ไม่มีอะไรที่จะดีขึ้น จึงได้เขียนหรังสือร้องเรียนถึง ประธานาธิบดี อีก ไม่ใช่แค่สถานการณ์ไม่ดีขึ้นเท่านั้น
เมื่อวันที่ 15 กกล.รัฐบาลได้ยิงปืนใหญ่ใส่หมู่บ้าน
ที่อยู่ในบริเวณเนินเขาลัวลานอีกด้วย นี่เป็นวิธียืดเวลาอีกวิธีหนึ่งของกกล.รัฐบาล เหล่านักวิเคราะห์ได้พากันวิภาควิจารอยู่
เนื่องจากรัฐบาล
ได้พัวพันกับการรบนั้นเอง หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยชนชาติไทยใหญ่ SNLD กับ พรรคชาติพัฒนาของรัฐฉาน SSPP/ SSA เมื่อวันที่ 26 เม.ย 56
จึงได้ทำหนังสือประกาศออกมร้องเรียน ขอให้รัฐบาลจงยุติการทำสงครามนั้นเสีย
เพื่อที่จะเคลื่อนพลกับ
SSPP/ SSA นั้น ฝ่ายรัฐบาล
ไม่ใช่แค่ดึงกำลังพลมาจากภาค ตอ.และภาค ตอ. / น.เท่านั้น จากบก.พลหน่วยสงครามพิเศษก็ดึงมา แล้วมารวมกันไว้ ดูแล้วรัฐบาลไม่ใช่แค่ทำสงครามกับ SSPP/ SSA เท่านั้น จะทำสงครามกับว้า UWSA และกลุ่มไมลาอีกด้วย
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารวิภาควิจารอยู่
ในการสู้รบนี้
ฝ่านรัฐบาลจะใช่ทั้งทัพอากาศก็เป็นได้
ฝ่าย UWSA เอง เพื่อที่จะได้โต้ตอบนั้น จึงได้เตรียมสนาม เฮลิปคอบเตอร์ไว้แล้ว
และได้จัดเตรียมจรวด ปตอ. เพื่อจะได้ยิงเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้มีข่าวออกมาจากบริเวณนั้น UNFC กล่าว.
ประเมินดูแล้ว
รัฐบาลจะใช้กำลังพลประมาณ 5,000 คนในการทำสงครามกับ SSPP กำลังพลแค่นั้นเอง
ใช่ว่าจะสู้ชนะ SSPP กับUWSA ได้ SSPP นั้นมีกำลังพลประมาณหมื่นกว่าคน
พรรค UWSA เองก็มาจากพรรคคอมมิวนิสพม่าสมัยก่อน
เคยพบเห็น เคยต่อสู้กับสัตรูมาจำนวนหลายหมื่นมาแล้ว พื้นที่อิสระที่ตนปกครองดูแลอยู่
ก็สามารถปกครองได้เช่นกัน UWSA นั้น กกล.ประจำนั้นมียอยู่ประมาณ 3 หมื่นกว่าคน กกล.ที่เข้มแข็งจากประชาชนนั้น
มีอยู่อีกประมาณ 2 หมื่นกว่าคน นอกจากนั้นกองสนับสนุนอีก 2 หมื่นกว่าคน
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารได้ประเมินไว้
ไม่ใช่แค่มี
ปตอ.เท่านั้น เครื่องบินเฮลิปคอบเตอร์รบ
และได้มีการฝึกอบรมแบบรบพิเศษให้นักบินอีกด้วย
ในการทำสงครามกับ KIA นั้น แม้กกล.รัฐบาลได้บุกโจมตีเป็นเวลาสองปี
ไม่ใช่แค่ไม่บรรลุเป้าหมายเท่านั้น
ยังแพ้ทางการเมืองอีกด้วย ต่างวิเคราะห์ได้อย่างนั้น
รัฐบาลนั้น แม้จะเปิดรูปลักษณะด้านหยุดยิง
แต่มีเลห์กลหลอกลวงเท่านั้น
ไม่มีรูปแบบที่จะสร้างกกล.สันติภาพเลยอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนั้น รัฐบาลกับ SSPP/
SSA แม้จะตกลง ลงนามเซนสัญญาหยุดยิงกัน ตั้งแต่ วันที่ 28 ม.ค ปี 2012
ไว้แล้วก็ตาม กลับมาปะทะกัน 100 กว่าครั้งแล้ว
มันเป็นการบงบอกถึงการประทำของรัฐบาลว่าไม่ซื่อ
เพราะฉะนั้น หากสัญญาการหยุดยิงต้องเสียไป
ก็ต้องโทษว่ารัฐบาลเป็นต้นเหตุ เพื่อเรื่องสันติภาพของประเทศจะได้เสียลงไป
รัฐบาลกำลังทำลายอย่างเห็นได้ชัด พ.อ.
เพิงพะ กล่าว
0 comments:
Post a Comment