ให้ทุกข์แก่ประชาชนแล้ว บังคับ KIA
อ้ายป้อน
นักข่าวเอกชนมอญ: 30 เม.ย
56 :สำนักข่าวสารหงส์ทอง
สวำหรับงานเก็บพลอยในพื้นที่
เลิงขิ่น อ.เมืองพากะ รัฐคะฉิ่น นั้น กกล.รัฐบาลพม่า ไล่ยิงข่มขู่ขับไล่ออก ประชาชนในพื้นที่คนหนึ่งกล่าว
“ ทหารพม่าไล่ยิงขับไล่ให้ออกไปจนถึงทุกวันนี้ ดูแล้วในพื้นที่ของเรานี้ เริ่มปลูกแล้ว
จะได้เลี้ยงชีพนั้น มันคงไม่ง่าย
ด้วยเหตุนั้นเอง เชื่อมั่นในงานพลอยนี้แล้ว
เพื่อจะได้เลี้ยงชีพจึงเก็บพลอยเท่าที่จะทำได้
นี่ทหารพม่ามาแล้วให้ทุกข์ไล่ยิงอย่างนี้ แล้วเราจะกินอะไร ” ต่างคร่ำครวนกันอย่างนี้
กกล.รัฐบาลนั้น คั้งแต่
วันที่ 15 ม.ค 56 ได้สั่งห้ามพวกเก็บพลอยเหล่านี้
ขณะที่ กกล.ของ KIA กับกกล.รัฐบาลเกิดการสู้รบกันอยู่อย่างดุเดือดอยู่นั้น ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ของคะฉิ่น
ต้องทนทุกข์กับกกล.ของรัฐบาลด้วยรูปแบบต่างๆนาๆ
ประชาชนในพื้นที่นั้นกล่าว
กำลังพลประมาณ 400 คน
จากกรมสงครามพิเศษ ที่ 7 (บก.ยศ.
ที่ 7) นั้น เมื่อวันที่ 15 ม.ค 56
ได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ พากะ นี้แล้ว
เมื่อวันที่ 18 ม.ค 56 ได้บุกโจมตียึดกองพันที่ 6 ที่ขึ้นกับกองพลน้อยที่ 2
ของ KIA ที่ตั้งอยู่ ในพื้นที่อ.เมืองพากะ
ไม่ใช่แคนั้น
ทหารพม่ายังขึ้นทุกบ้าน หาทรัพย์สินที่มีค่าของประชาชน สำหรับประชาชนในพื้นที่แล้ว กกล.รัฐบาลก็ไม่ให้ไปไหนมาไหนและได้สร้างความหายนะให้ประชาชนอย่างมากมาย
“ กกล.รัฐบาล ได้ยึดกองพัน ที่ 6 ของ KIA แล้วข่มเหง ประชาชนในพื้นที่พากะ อีกด้วย ที่ต้องพูดอย่างนี้นั้น ตอนที่พวกเขาบุกโจมตี KIA อยู่นั้น ประชาชนเอง ก็ถูกพวกเขาได้ข่มเหงอีก ตอนนี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่เป็นอันทำมาหากิน พวกเขา ยังข่มขู่อีกด้วย ถ้าพูดถึงบริเวณพากะพื้นที่เลิงขิ่นนั้น เลี้ยงชีพโดยการหาพลอยเลี้ยงชีพ ปิดไม่ทำก็เท่ากับฆ่าพวกเราทั้งเป็น ” ประชาชนในพื้นที่คนหนึ่งที่ทำงานเก็บพลอยนั้นกล่าว
บริเวณพากะ พื้นที่เลิงขิ่นนั้น
เป็นพื้นที่ฝนตกน้อยไม่มีน้ำ แล้งน้ำ ทำไร่ปลูกข้าวไม่ได้เลย ด้วยเหตุนั้น ประชาชนในพื้นที่
ยึดมั่นในงานหาพลอยเท่าที่จะออกแรงได้ของตนได้หาเก็บพลอยเลี้ยงชีพอยู่
ประชาชนในพื้นที่เอง จะได้เป็นงานที่ถูกกฎหมายนั้น แม้จะพยายามอยู่
แต่เนื่องจากการดำเนินด้านการสู้รบของรัฐบาลกับการเตรียมการด้านการปกครองของรัฐบาลนั้นเอง
เป็นการอุปสรรคขวางกั้น
“ เพื่อที่จะได้เป็นงานที่ถูกกฎหมายนั้น
จะต้องขอกับใคร เชื่อใครดี
จะได้เชื่อมั่นรัฐมนตรีของภาคนั้น พวกเขาก็เป็น รัฐมนตรีหุ่นฟางอยู่ ใช้อำนาจของกองทัพแล้วปิดงานเก็บพลอยนี้ และย้ายฐานอยู่บ่อยๆ ต้องเสียภาษีอยู่แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว
ทุกครั้งที่มีกกล.เข้ามาใหม่ ต้องให้ทั้งหมด คงจะไม่ไหวแน่ ” ประชาชนในพื้นที่ ที่ทำงานเก็บพลอยนั้นกล่าว
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
เวลาที่ทำมาหากินยากลำบากอยู่อย่างนี้
จากถนน มอก่อง ไปยังพากะนั้น ค่ายยามรักษาการ กลุ่มผสมของรัฐบาล
มีอยู่ประมาณ 4 แห่ง
พวกที่ต้องสัญจรไปมาแต่ละค่ายและต้องให้ค่าผ่านให้กับแต่ละค่าย โดยที่ไม่เคยมีหนังสือเซนรับรองอะไรเลย นัธุรกิจคนหนึ่งกล่าว
“ ที่ปากทางเข้ากับ กาไม นั้น
ก็มีอยู่จุดหนึ่ง ที่มะอูเปียนแห่งหนึ่ง
ที่จาฮอ แห่งหนึ่ง
ที่จ๊อกชาแห่งหนึ่ง ได้เปิดค่ายยามรักษาการใหม่ขึ้นมาอย่างนี้แล้ว ผู้คน ,
สินค้า , มอเตอร์ไซค์ ที่นำเข้าออกอยู่นั้น
ไม่ให้เล็ดลอดไปได้ แล้วเสาะหาแต่สิ่งที่แพงๆอีกด้วย”
ในค่ายสังเกตการเหล่านั้น
ไปกลับแค่ครั้งเดียว รถคันหนึ่งต้องเสียค่าผ่าน หนึ่งหมื่นจ๊าด มอเตอร์ไซค์
หนึ่งคัน ต้องเสียค่าผ่าน ห้าพันจ๊าด สำหรับผู้คนต้องเสียคนละ หนึ่งพันจ๊าด
พวกเขาได้เก็บค่าผ่านอยู่ทุกวัน หากค้นพบพลอยได้จากประชาชนในพื้นที่ แล้ว
ทั้งยึดของกลางและจับคนอีกด้วย
ประชาชนในพื้นที่คนหนึ่งที่เห็นเหตุการนั้นกล่าว
นี่รัฐบาลอยากจะบีบบังคับ
KIA แล้ว
ด้วยนิสัยที่ไล่ล่าเข่นฆ่าพวกแรงงานในพื้นที่ พากะ เลิงขิ่น นั้นเอง
การประเมินของรัฐบาล นั้น จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ ไปมาหาสู่ลำบาก จึงไม่สามารถที่จะให้การสนับสนุนกับ KIA
ได้ ด้วยเหตุนั้น
จึงต้องจัดให้ทำตามเงื่อนไขนั้น เหล่านักวิเคราะห์พากันวิจารอยู่.....
0 comments:
Post a Comment