Latest Update

ေကၜာန္ဍာံဒးဒွ္၊ ေကတ္ဍာံဒးဂြံ၊ အာဍာံဒးစိုပ္

Monday, February 11, 2013

เจตนารมของรัฐบาลพม่ากับชีวิตของผู้ลี้ภัยสงครามที่รัฐคะฉิ่น

เจตนารมของรัฐบาลพม่ากับชีวิตของผู้ลี้ภัยสงครามที่รัฐคะฉิ่น 


สำนักข่าวหงส์ทอง:พฤหัสบดี ที่ 7 ก.พ 56  : 2013





เกี่ยวกับการประกาศของรัฐบาลพม่า ที่ได้ประกาศออกมา เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามที่รัฐคะฉิ่นนั้น  เหล่า หน.ของผู้ลี้ภัยสงครามต่างไม่พอใจกัน  หน.ของผู้ลี้ภัยสงครามคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่พากะ นั้นกล่าว 

เป็นเวลาปีกว่ามาแล้ว เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามชาวคะฉิ่นเหล่านี้ ทางรัฐบาลไม่เคยเตรียมการอะไรให้เลย บางกลุ่มที่มาให้การช่วยเหลือ แต่ก็ถูกทางรัฐบาลกีดกันไม่อนุญาตให้ก็มี  รัฐบาลทรมานปล่อยให้อดตาย  ทรมานจนสาแก่ใจ จนกระทั่งถึงวันที่ 4 ก.พ 56 นี้ ได้เปิดประเด็นถึงประกาศออกมาเพื่อที่จะให้การช่วยเหลือนั้น  มันผิดเกินไป   ที่ชาวคะฉิ่น มีชีวิตต้องลี้ภัยสงครามนั้น  เป็นการกระทำของรัฐบาลพม่าเอง  ตอนนี้ถึงได้ออกมาเสนอหน้า ทำเป็นพูดดีเพื่อเอาหน้านั้น มันเกินไปหรือเปล่า ต่างกล่าวกัน

รัฐบาลพม่านั้น ได้พิจารณา สงสาร ต่อพวกที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนและไร้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ เพราะต้องลี้ภัยสงครามนั้น  เพื่อจะได้ช่วยเหลือและทำการจัดเตรียมให้นั้น  เมื่อวานนี้จึงได้ประกาศออกมา

ผู้ลีภัยสงครามกล่าวว่า กกล.รัฐบาลพม่า มีการละเมิดสิทธิมนุษย์ชน ต่อชาวบ้านไว้ด้วย  เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางองค์การนาๆชาติ ควรที่จะต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงนั้น ก็ได้ร้องขอไว้เหมือนกัน  เนื่องจาก กกล.รัฐบาล ได้ยิงปืนใหญ่ใส่หมู่บ้าน  แล้วอยู่ๆก็หาเรื่อง ทุบตีชาวบ้านและใส่ร้ายชาวบ้านผู้บริสุทธิ์แล้วยิงทิ้งก็มี ด้วยการกระทำอย่างนี้นั้นเอง ชาวบ้านจึงไม่กล้าอยู่ในหมู่บ้านของตน จึงต้องอพยพจนกลายเป็นผู้ลี้ภัยสงครามไป  หน.ผู้ลี้ภัยสงครามนั้นกล่าว 

ไม่ใช่แค่นั้น ผู้ใจบุญจะมาบริจาคให้ผู้ลีภัยสงครามเหล่านี้ แต่ก็ถูกทางรัฐบาลไม่เปิดโอกาสให้ ไม่อนุญาตให้เข้าไป แล้วที่หมู่บ้านต่างๆถูกไฟไหม้นั้น ทหารของรัฐบาลพม่าเป็นผู้ลงมือเผาเอง มีทั้งเข่นฆ่าชาวบ้านอีกด้วย ที่พวกเขากระทำอย่างนี้  อยากจะบีบบังคับ KIO แล้วจึงได้ดำเนินการอย่างนี้  เราเข้าใจอย่างนั้น  หน.ของผู้ลี้ภัยสงครามนั้นกล่าว
ตามที่ หน.ของผู้ลี้ภัยสงครามเข้าใจนั้น เมื่อวันที่ 4 ก.พ 56 นั้น รัฐบาลกับ KIO ได้พบปะเจรจากัน (ที่ชวยลี เมืองชายแดน ประเทศจีน) เกี่ยวกับการลดประสิทธิภาพทางทหารลง  แล้วทางรัฐบาลพม่าก็ได้ประกาศออกมาเพื่อที่จะให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามเหล่านี้ขึ้นมา  

ค่ายอพยพผู้ลี้ภัยสงครามชาวคะฉิ่นเหล่านี้ มีอยู่สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอพยพหนีเข้าไปอยู่ในตัวเมือง  อีกกลุ่มหนีเข้าไปอยู่ในป่าทางพื้นที่การปกครองของ KIA นั้นเอง  ที่รัฐคะฉิ่น ทางด้านพื้นที่พากะนั้น ค่ายอพยพของผู้ลี้สงครามมีอยู่ 39 ค่าย ทางด้านเมียดจีนากับ จ.ปานมอนั้น ค่ายอพยพผู้ลี้ภัยสงคราม มีอยู่ ประมาณ 100 ค่าย ในเขตพื้นที่การปกครองของ KIA นั้น มีอยู่ประมาณ 30 ค่าย  จึงเปิดเผยไว้ในบัญชีของหน.ผู้ลี้ภัยสงครามเหล่านี้  ด้วยจำนวนผู้ลี้ภัยสงครามรวมทั้งหมดได้ดังนี้ คือ ในเขตพื้นที่การปกครองของรัฐบาลนั้น มีผู้อพยพลี้ภัยสงครามอยู่ประมาณ 6 หมื่นคน ในพื้นที่การปกครองของ KIO มีอยู่

ประมาณ 5 หมื่นคน   ในการเอาชนะของรัฐบาลพม่า ต่อ KIO ด้วยด้านการทหารนั้น หวังให้ KIO จะได้เสียขวัญกำลังใจลงไป  แล้วชาวคะฉิ่นจะได้ตกอยู่ในสภาพของผู้ลี้ภัยสงครามนั้น จึงมีการดำเนินการผลักดันไปด้วยความคาดหวังนั้นๆอีกด้วย  เหล่านักวิเคราะห์กล่าวกัน  ด้วยเหตุนั้นเอง ในช่วงที่เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดอยู่นั้น  ไม่มีการให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามเลยแม้แต่น้อย พอถึงเวลาได้กลับมาเจรจาแล้ว ถึงได้พูดเรื่องการช่วยเหลือขึ้นมา เป็นการที่จะหาผลประโยชน์ทางการเมือง อย่างแน่นอน  ใช่ว่าจะให้การช่วยเหลือด้วยมืออย่างแท้จริง หน.ของผู้ลี้ภัยสงครามเห็นเป็นเช่นนั้น

ช่วงที่รัฐบาลพม่ากล่าวประกาศออกมาว่าจะให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามนั้น  ทางด้านพากะของรัฐคะฉิ่นนั้น กกล.รัฐบาลพม่ายังไล่จับชาวบ้านไปเป็นลูกหาบอยู่อีก   ไม่ใช่แค่นั้น ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้  ในด่านตรวจซานคาที่อยู่ใน เลิงไคนั้น กกล.รัฐบาล ได้จับคนเพิ่มอีกประมาณ 40 คน ทางกองพัน ที่ 6 ของ KIA กล่าว   ในนั้นมีสัตรีอยู่ประมาณ  15 คน ผู้เห็นเหตุการนั้นกล่าว  นอกจากนั้น ช่วงเที่ยงของวันนี้ ประมาณ 12:00 น. นั้น ที่หมู่บ้านมะซับปาน ที่ห่างไกลจาก เลิงไค ประมาณ 3 ไมล์นั้น กกล.รัฐบาลได้จับชายหนุ่ม อายุ ประมาณ 20 ปีกว่า 2 คน

ด้วยเหตุนั้น รัฐบาลพม่าว่า ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามนั้น  แม้จะกล่าวประกาศไว้ด้วยปาก แต่การลงมือกระทำอย่างแท้จริงนั้น เป็นการขับไล่พวกทำเหมืองพลอยที่จ๊อกไค และจับผู้เดินทางไปเป็นลูกหาบ แล้วทำการเคลื่อนพลอยู่อีก ผู้ลี้ภัย สงครามจะได้กลับสู่ภูมิลำเนาอีกนั้น คงจะเป็นไปได้ยาก หน.ของผู้ลี้ภัยสงครามนั้นกล่าว.....

0 comments:

Facebook Fan Page