กกล.รัฐบาลพม่า กดขี่ข่มเหงประชาชนชาวพากะ
สำนักข่าวหงส์ทอง: อังคาร ที่ 5 พ.ค 56 : 2013สำหรับประชาชนที่อยู่ในเขตเมืองพากะ รัฐคะฉิ่นนั้น กกล.รัฐบาลพม่าได้กรัทำอย่างทารุน เช่น การกดขี่ข่มเหง การฆาตกรรม การแย่งชิงสรัพย์สินของประชาชน การออกคำ สั่งฉุกเฉินที่ไม่มีความเป็นธรรม เข้าแต่ละหมู่บ้านแล้วสอบสวนประชาชน พร้อมกับข่มขู่ประชาชนก็มี ชาวบ้านในพื้นที่ กะเวคา คนหนึ่งนั้นกล่าว
“ กกล.ของรัฐบาลโหดร้ายทารุนขณะไหนนั้น เมื่อวันที่ 31 ม.ค 56 นั้น อยากจะหาเรื่อง KIA แล้วยิงปืนใหญ่ใส่หมู่บ้าน คามอจี ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 4 คนบาดเจ็บ 17 คน เช้าของวันที่ 1 ก.พ 56 นั้น เกิดการปะทะกันกับกับกกล.KIA นาน 3 ชม. ด้วยเหตุนั้น ชาวบ้านในพื้นที่จึงต้องหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าวนั้น บางคนก็หนีไปได้ แต่ผู้คนส่วนใหญ่จะถูก กกล.รัฐบาลพม่าปิดล้อมไว้ ไปไหนไม่ได้ พวก กกล.พม่าไม่ยอมให้พบกับใครๆทั้งสิ้น เสบียงอาหารก็ไม่มี มีผู้ที่ได้รับเจ็บรน่วมอยู่ด้วย แม้กลุ่ม KBC มาดูแลให้การช่วยเหลือ แต่พวก กกล.รัฐบาลพม่าไม่ให้เข้า กักปิดล้อมไว้อย่างนี้ ทั้งหมดคงอดอยากลำบากเป็นแน่” กล่าวกัน
อีกอย่าง กกล.รัฐบาลได้ออกคำสั่งไว้กับผู้นำชุมชนเหล่านั้นว่า หาก กกล.ของ KIA มาโจมตีหรือระเบิดบริเวณนี้ ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่นี้ จะถูกยิงทิ้งทั้งหมด ชาวบ้านเหล่านั้นกล่าว
ในพื้นที่กะเวคา ทางบ้าน(กานซี, เลิงขั่ง) นั้น กกล.รัฐบาลพม่า เข้าไปตรวจทุกหมู่บ้านและขึ้นทุกบ้าน พบทรัพย์สินที่มีค่าของชาวบ้านก็จะยึดเอาไป หากสอบสวนพบคนที่มีพิรุดก็จะจับเอาตัวไป แบ่งแยกเชื้อชาตแล้วข่มเหงอยู่ หากเป็นชาวพม่า พวกเขาจะไม่สอบสวน ไม่ยึดทรับย์สิน หากเป็นประชาชนชาวคะฉิ่น ก็ทำการจับกุ่มทันที แย่งชิงทรัพย์สินที่มีค่าไป แล้วข่มขู่ด้วยรูปแบบต่างๆนาๆ บางคนพวกเขาสงสัยถึงกับยิงทิ้งก็มี ชาวบ้านในพื้นที่นั้นกล่าว
ผู้เดินทางสันจรไปมาในพื้นที่พากะนั้น ถูกตรวจสอบทั่วทั้งร่างกาย ทรัพย์ในตัว เช่น นาฬิกา สร้อย แหวน ตางหู เงินทองทหารพม่าจะยึดเอาไปทั้งหมด และที่สำคัญหากเป็นชาวคะฉิ่น จะยืดเวลาไว้ แม้ไม่มีความผิดก็จะใส่ร้าย แล้วสอบสวนอย่างทารุนอีกด้วย ชาวบ้านที่ถูกตรวจสอบคนหนึ่งกล่าว
“ เมื่อวานนี้ ผมไปถึง ซานรา , กาซี นั้น โจรในคราบทหารของรัฐบาล พบผู้คนก็จะทำการตรวจสอบทั้งหมด พบทรัพย์สินที่มีค่าก็จะยึดเอาไป แม้แต่นาฬิกาก็ไม่เหลือ หากเป็นชาวพม่าก็จะปล่อยตัวไป หากเป็นชาวคะฉิ่นก็จะจับตัวไว้ แล้วพวสกเขาไม่ให้ออกจากหมู่บ้านอีกด้วย แล้วยังกล่าวอีกว่า หาก KIA มาโจมตี หรือมาระเบิดใส่ ชาวบ้านทุกคนจะถูกยิงทิ้งทั้งหมด ” ชาวบ้านคนนั้นกล่าว
การกระทำของกกล.รัฐบาลที่กระทำอยู่ในตอนนี้นั้น ข่มเหงประชาชนชาวคะฉิ่นให้ดู เพื่อ กกล. KIA ทดดูไหม่ไหว และระหว่าง KIA กับประชาชนชาวคะฉิ่นจะได้แตกแยกกันอีกด้วย ข่มเหงชาวคะฉิ่นอย่างนี้แล้วทำให้ KIA เสียขวัญกำลังใจ แล้วในที่สุดก็จะยอมแพ้ไปเอง กกล.รัฐบาลคาดหวังไว้อย่างนั้นแล้ว จึงได้หาวิธีเอาชัยชนะ ต่อ KIA ด้วยจิตวิทยาอย่างนี้ เ)นแน่ เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้น กล่าว
การกระทำของกกล.รัฐบาลพม่าในตอนนี้นั้ ได้กระทำมานานแล้ว ในพื้นที่ KNU กับพื้นที่ของ SSPP/RCSS เอง เมื่อปี 1994กับปี 2001 นั้น กกล.พม่าเคยใช้วิธีที่โหดเหี้ยมอัมหิตอย่างนี้มาแล้ว
ฝ่ายกกล.รัฐบาล แม้จะมีการละเมิดสิทธิมนุษย์อย่างนี้ ทางประเทศต่างๆ จะได้ลงมาตรวจสอบอย่างอิสระ จะได้กล่าวเอาโทษบีบบังคับ เรียกร้องกับรัฐบาลพม่านั้น ยังไม่มีใครเลยสักคน ในการกระทำของกกล.รัฐบาลที่สร้างสถารการณ์อยู่อย่างนี้ นั้น KIA เอง ก็ไม่อนุญาตให้โต้ตอบ ผบ.พัน กองพันที่ 6 ของ KIA นั้นกล่าว
“ เพื่อไม่ให้มีการโต้ตอบเกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น ทางบก.พลได้สั่งการไว้ เราเองจึงไม่ไปโจมตีพวกเขา ทางด้านกะเวคานั้น กกล.รัฐบาลขึ้นบ้านประชาชนมีการแบ่งชนชาติ ถ้าเป็นชาวพม่าก็จะละเว้น หากเป็นชาวคะฉิ่นก็จะทำการจับกุ่ม แล้วมีการยิงทิ้งก็มี ” ผบ.พันคนนั้นกล่าว
เมื่อวันที่ 1 ก.พ 56 เกิดการปะทะกันที่เนินเขาคามอจี นาน 3 ชม.นั้น ทางบก.พลสั่งการไว้ไม่ให้ยิง ผบ.พัน กองพันที่ 6 นั้น กล่าว ที่ต้องเกิดการปะทะกันนั้น กกล.รัฐบาลได้ยิงปืนใหญ่ใส่หมู่บ้าน คามอจี ทำให้ประชาชนต้องเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ นั้นเอง กกล.KIA จึงไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านั้น กกล.รัฐบาลพม่าขึ้นมา แล้วเกิดการปะทะกันขึ้น
เพราะการปะทะกันนี้เอง กกล.รัฐบาล จึงได้กดขี่ข่มเหงประชาชนชาวคะฉิ่นเพิ่มขึ้น หากยังมีการปะทะกันต่อไปอีก ตามที่กกล.รัฐบาลประกาศคำสั่งไว้นั้น จะยิงประชาชนอีกอย่างแน่นอน นี่เป็นวิธีการของรัฐบาลที่จะทำลายล้างเผาพันธุ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ วิธีการโหดเหี้ยมอย่างนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งของกกล.รัฐบาลอยู่แล้ว เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้นกล่าว
เมื่อเช้านี้ ประมาณ 09:00 น. KIO กับตัวแทนของรัฐบาล ได้เจรจากันที่ชวยลี ประเทศจีนนั้น เป็นการเจรจาในเรื่องการทหารเท่านั้น ที่ได้ข้อตกลงกันไว้ 5 ข้อ ในการเจรจานี้ เนื่องจากรัฐบาล ได้เพิ่มประสิทธิภาพทางทหารขึ้น เมื่อเดือน ธ.ค 55 ที่ผ่านมานั้น แล้วถึงขั้นต้องกลับมาเจรจากันอีกครั้ง
เพื่อที่จะได้รับชัยชนะโดยการทำสงครามจิตวิทยากับ KIA นั้น โดยการ
กระทำในรูปแบบกดขี่ข่มเหงทารุนต่อประชาชนชาวคะฉิ่น ที่พื้นที่พากะนั้น ข้อนี้ก็ร่วมอยู่ในข้อตกลงนั้นด้วย หากกกล.รัฐบาลย่ำยี กลุ่มชาติพันธุ์ เคลื่อนพลด้วยกำลังพลเต็มอัตราแล้ว เพื่อที่ประชาชนจะได้อพยพออกไป จะได้ตกทุกข์ได้ยากนั้น ต้องดำเนินการ กดขี่ข่มเหง แย่งชิง จะทำการฆาตกรรม ด้วยการกระทำเช่นนี้ เหนียวแน่อยู่ในประวัติศาสตร์ครั้งนี้อยู่แล้ว เหล่านักวิเคราะห์ด้ารการทหารนั้นกล่าว ด้วเหตุนั้นเองในเรื่องลักษณะนี้ ควรต้องมีการสำรวดเสาะหาอย่างอิสระด้วย เหล่าอาญาการต่างพากันวิพากวิจารอยู่เช่นกัน.....
0 comments:
Post a Comment