การเคลื่อนไหวของ กกล.รัฐบาล ที่ไปถึงพื้นที่ของ KIA
สำนักข่าวหงส์ทอง: จันทร์ ที่ 28 ม.ค 56
: 2013
ช่วงเช้าของวันนี้ประมาณ 11:00 น. กกล.รัฐบาล มุดออกมาจากละจายาน แล้วอ้อมลงมาทางบ้านละวายาน
ระหว่างละวายานกับปากทางเข้าลายซานั้น เผชิญหน้ากับ KIA แล้วเกิดการปะทะขึ้นนานประมาณ
15 นาที แล้วก็ยังเงียบไป ผบ.กกล. KIA ที่อยู่ในละวายานนั้นกล่าว
กกล.รัฐบาลนั้น เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ม.ค 56
เวลาประมาณ 16:00 น. ขึ้นไปยึดเนินเขาคายาไปได้
เนื่องจากได้รับบาดเจ็บมากและเสียหายหนักนั้นเอง
เมื่อวานนี้ได้เพิ่มกำลังพลขึ้นทั้งเสียงอาหารและยุทธโธปกรณ์
ส่งมาด้วยทางเครื่องบินเฮลิปคอบเตอร์
เครื่องบินดังกล่าวนี้ พอขนเสบียงกับกำลังพลลงแล้ว
ขากลับก็ขนคนเจ็บกลับไป เพื่อไม่ให้ ทาง KIA
กลับไปยึดคืนได้นั้น
ทางรัฐบาลจึงต้องเสริมกำลังพลไว้
ทั้งปืนใหญ่ของพวกเขาอาจจะตั้งเพิ่มขึ้นมาบนเนินเขาคายานี้อีก ก็เป็นได้
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการรบนั้นวิจารกัน
กกลรัฐบาล เตรียมความพร้อมอยู่ในตอนนี้นั้น เพื่อที่จะทำสงครามกับเมืองลายซาอีก เป็นแน่
ฝ่าย KIA ได้ประเมินไว้อย่างนั้น
แม้เสียงปืนจะเงียบไปแล้วก็ตาม ทั้งในบริเวณเนินเขาคายา และในบริเวณลายลองลีซอ
, ละจายาน , ลองโล่และไมจายาน นั้น พวก KIA ยังเคลื่อนไหวอยู่
การปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เนื่องจากกกล.รัฐบาลคิดว่าพวกกกล. KIA ไม่อยู่ จึงต้องโดนโจมตีกับ KIA ซ้ำยังโต้ตอบไม่ทัน จึงต้องหนีกลับไป ผบ.ของ KIA คนหนึ่งกล่าว
กกล.รัฐบาลยึดเนินเขาคายาไปได้ ทางด้านตัมโอ
พื้นที่ ปานไซ บริเวณกองพัน ที่ 36 ใต้บังคับบัญชาของกองพลน้อยที่ 4 ของ KIA นั้น กกล.รัฐบาล
ยังบุกขึ้นมาอีก KIA กล่าว ด้วยเหตุนั้น สำหรับกกล.รัฐบาลพัน คล. 242
ที่บุกขึ้นมา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27
ม.ค 56 ประมาณ 10:00 น.นั้น ฝ่ายกกล.ของ KIA คอยซุ่มโจมตีอยู่แล้ว
ทำให้ฝ่ายกกล.รัฐบาลเสียชีวิตไป 3 คน
เช่นเดียวกัน
กกล.รัฐบาล ที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานนั้น เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นเช่นกัน ผบ.กกล.ของปะหล่อง TNLA คนหนึ่งกล่าว
ทางด้านเขตเมืองพากะเอง
กกล.รัฐบาลที่เคลื่อนพลอยู่ในเขตของกองน้อยที่ 2 ของ KIA นั้น
ทั้งยังยิงฆ่าชาวบ้านอีกด้วย เรื่องที่เกิดขึ้น คือ อูลูวิน อายุ 30
ปีเศษกับอูหม่องลา อายุ 46 ปี ทั้งสองคนได้นั่งมอเตอร์ไซค์มา พอใกล้จะถึงบ้านกานซี
กกล.รัฐบาลใส่ร้ายโทษว่า เป็นทหารของ KIA ในช่วงเย็นประมาณ 18:00
น.นั้น จึงยิงใส่ทั้งสองคน คนแรกเสียชีวิตทันที
แต่อีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส KIA
กล่าว เมื่อวันที่ 26 ม.ค
56 นั้น นางโกวิน ภรรยาของนายปะลองจินพองนั้น
ถูกกกล.รัฐบาลพม่ายิงเสียชีวิตอยู่นอกหมู่บ้านนามจิน ชาวบ้านในพื้นที่นั้นกล่าว
“ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นผู้หญิง
แต่ก็ยังยิงใส่อีก ซ้ำยังข่มขู่ชาวบ้านอีก
บอกว่าข่าวนี้อย่าให้แพร่ออกไปนะ ถ้าแพร่ออกไปก็จะยิงทิ้งอีก
ขู่ไว้อย่างนี้ ในเขตนี้ไม่มีกกล. KIA
ได้ย้ายไปหมดแล้ว พวกเขาหากกล. KIA ไม่พบ
แล้วหาเรื่องกับชาวบ้าน
ไม่ว่าจะพบสิ่งของอะไร ก้จะแย่งชิงเอาไปทั้งหมด
เหมือนกับโจรผู้ร้ายไม่มีผิด”
รับบาลนั้น อีกด้านหนึ่งบุกโจมตี
KIA ด้วยกำลังทหาร
แล้วอีกด้านหนึ่ง ก็โจมตีด้วยสื่ออย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น
กกล.ของพวกเขาได้กดขี่ข่มเหงยิงประชาชนจนเสียชีวิต แล้วใส่ร้ายว่า KIA เป็นผู้กระทำ ได้เผยแพร่ข่าวแบบผิดๆ
เพื่อให้ผู้คนเกิดความสงสัย ต่อ KIA นั้นเอง
ทหารของพวกเขาตายเป็นเบื่อ จะได้ปลุกระดม เพิ่มประสิทธิภาพทางใจว่า
สละชีพเพื่อแผ่นดินนี้ ประเสริฐยิ่งนักได้กล่าวไว้อย่างนี้ อยู่ๆพวกเขาได้ระเบิดรถไฟ แล้วใส่ร้าย KIA แม้ประเทศอื่นๆจะต่อต้าน แต่เชิดชูศักดิ์ศรีโดยการทำสงครามด้วยเครื่องบิน การกระทำของพวกเขา
เผาทำลายหมู่บ้านชาวคะฉิ่นแล้ว บ่ายเบี่ยงโทษของตน
แล้วมีการเผยแพร่โอวาทในรูปแบบต่างๆนาๆ KIA
กล่าว
ใครจะตายก็ชั่ง ตนไม่ตายก็พอ ยึดอุดมการณ์อย่างนี้ แล้วสักวันหนึ่งความเป็นจริงก็จะปรากฎขึ้นมาอีกเป็นแน่
ในการทำสงครามลายซา
รัฐบาลนี้ เพื่อให้พรรคพวกของตนจะได้ เจ็บน้อยและเสียชีวิตน้อยที่สุดนั้น ฝ่าย KIA
ได้ควบคุมแบบเฉพาะกิจแล้ว การสูญเสียจึงไม่เกิดขึ้น
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้นกล่าว เนินเขาคายา ที่เป็นกำแพงสำหรับลายซา
แม้จะเสียไปแล้ว KIA นั้น เพื่อด้านการเมืองจะได้โดงดังไปทั่วทั้งโลกนั้น ได้แสดงให้เห็นมาแล้ว
ด้วยเหตุนั้น ในการทำสงครามตั้งรับเนินเขาคายานั้น สำหรับ KIA แล้ว ยังได้รับผลกำไรทางการเมืองอีกด้วย
เหล่านักวิเคราะห์ทางการทหาร ต่างพากันวิภาควิจารกันอยู่ รัฐบาลนั้น ไม่ใช่แค่ต้องถูกวิภาควิจารจากประเทศต่างๆเท่านั้น ประธานาธิบดีกับผบ.ทบ.
ไม่มีสัจจะหลอกลวงอย่างไรนั้น รู้กันทั่วโลก
อีกด้านหนึ่ง ฝ่ายรัฐบาลเนื่องจากเจ็บกนักและสูญเสียเป็นจำนวนมากนั้นเอง
ความส่มัคคีในกองทัพจึงสั่นคลอนขึ้นมา กองทัพบกนั้น สักยภาพในการรบยังอ่อนอยู่มาก
ต้องใช้กำลังพลแค่ยิงปืนใหญ่เกินจากมาตรานั้นเอง
แม้จะได้รัชัยชนะ แต่ชนะด้วยความสูญเสีย
การสู้รบเนืนเขา
คายา ที่สิ้นสุดลงไปนั้น
ทางรัฐบาลจะเชื้อเชิญเจรจาทางการเมืองกับ KIA เป็นแน่ ต่างเกิดความสงสัยอยู่ พูดจริงๆแล้ว
การทำสงครามลายซา นั้น นอกเหนือจาการกวาดล้าง KIA แล้ว การต้องกู้ศักดิ์ศรีของรัฐบาลนั้นเป็นรากฐาน ด้วยเหตุนั้น ในการทำสงครามลายซานั้น
ฝ่ายรัฐบาลแม้จะยึดฐานเนินเขาสูงๆได้แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถควบคุมกกล. KIA
ได้ ด้วยการทหาร เนื่องจากครอบครองกองทัพ KIA ยังไม่ได้นั้นเอง
ถึงขั้นต้องควบคุมด้วยวิธีทางการเมืองต่อไปนั้น
ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงได้
รัฐบาลนั้น
นอกเหนือจากทำการกวาดล้าง โดยการทำสงครามกับกลุ่มจับอาวุธ กลุ่มชาติพันธุ์แล้ว เพื่อจะให้ยอมรับรัฐธรรมนูญปี 2008 นั้นเอง พวกเขาได้ปูไว้ ผลสุดท้ายก็ผลักให้เป็นกกล.รักษาชัยแดนอีก
จะจัดการด้วยลักษณะนี้เท่านั้น และเป็นเชิดชูเกียรติยศ
เพื่อที่จะได้เตรียมตัวในการเลือกตั้งในปี 2015 เพื่อที่จะได้รับตำแหน่งประธาน
อาเซีย แล้ว จะได้เรียบเรียงได้ง่ายขึ้น จึงได้ตั้งความหวังไว้อย่างนี้ แต่การเตรียมการนี้ ไม่ว่ากลุ่มจับอาวุธของชาติพันธุ์ไหน
ก็ไม่ยอมรับกัน เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้นวิภาควิจารกัน
KIA เอง
ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตนคาดหวังไว้
ก็ใช่ว่าจะยอมลดเรื่องการสู้รบลงง่ายๆ
เหล่านักวิเคราะห์เข้าใจอย่างนั้น
เกี่ยวกับการเจรจาทางการเมืองนั้นแล้ว ได้มอบหมายไว้ให้ UNFC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.....
0 comments:
Post a Comment