+02.jpg)
ในแนวทางสันติภาพของรัฐบาลนั้น KIA เกิดความสงสัยอยู่
อังคาร ที่ 19 มี.ค 56 :สำนักข่าวสารหงส์ทอง
ทางตอนเหนือของรัฐฉาน
ทางด้านพื้นที่กองพลน้อยที่ 4 ของ KIA นั้น เนื่องจากกกล.ของรัฐบาลยังเคลื่อนพลอยู่นั้นเอง จึงมีการปะทะกันอีก
จนท.อาวุฒโสคนหนึ่งของ KIA กล่าว
“ เมื่อวันที่ 11 มี.ค
56 ได้เจรจากับรัฐบาล ในเมืองชวยลี แต่ว่าทางกองพลน้อยที่ 4 ของเรานั้น
เกิดการปะทะกัน ตั้งแต่วันที่ 10-16 มี.ค 56 ดูจากลักษณะนี้แล้ว พวกเขายังมีความมุ่งมั่นเพื่อที่จะทำการกวาดล้าง
KIA อยู่อีก
เมื่อช่วบงบ่ายของวันที่
16 มี.ค 56 กกล.ของรัฐบาล พัน คร. 502 กับ
พัน คล. 130 มาจากนัมมะตู ได้ร่วมกันเข้าโจมตีค่าย 34 ที่ขึ้นกับกองพลน้อย ที่ 4
ของ KIA ที่อยู่ในหมู่บ้านลัวยา
อ.เมืองมานเติง ไม่ใช่แค่นั้น ทางด้าน อ.เมืองนัมมะตู ก็เกิดการปะทะกันเช่นกัน
หลังจากเกิดการปะทะกันแล้ว
ในพื้นที่ของกองพัน 17 ของกองพลน้อยที่ 4 ของ KIA นั้น กกล.รัฐบาลยังไม่ทราบว่ามาจากกองพันไหน ด้วยกำลังพลประมาณ 100 คน
ได้เพิ่มเข้ามาอีก
การเคลื่อนพลของกกล.รัฐบาลนั้น
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 มี.ค 56 เวลา ประมาณ 10:30 น.นั้น กกล. พัน คล. 241 (จากก๊อดไค)ได้ไล่ล่ากกล. KIA จากกองพัน ที่ 9 ของกองพลน้อยที่ 4 จึงเกิดการปะทะกันนาน 2 ชม.
การปะทะกันเหล่านี้
ทั้งหมดได้เกิดขึ้นหลังจากการเจรจายุติสงครามเมื่อวันที่ 11 มี.ค 56 นั้นเอง
ในงานเจรจาเมื่อวันที่
11 มี.ค 56 นั้น เพื่อที่จะได้เข้าสู่การประชุมใหญ่อย่างแท้จริง
แต่ละฝ่ายต้องเข้าใจกัน ต้องให้เกียรติต่อกัน ต้องสร้างความเชื่อมั่นแล้วการหยุดยิง
จะได้มั่นคงอย่างถาวรต่อไปและต้องอำนวยต่อกัน
ได้ทำข้อตกลงกันไว้อย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม ใต้กฎระเบียบการตกลงเช่นนี้เอง กกล.รัฐบาลยังทำสงครามอยู่อีก
ไม่ใช่แค่นั้น
เมื่อครั้งที่พยายามทำการเจรจาเรื่องยุติสงครามอยู่นั้น
กกล.รัฐบาลทั้งทางบกและทางอากาศ ได้เสริมกำลังพลเตรียมความพร้อมไว้
ในเขตพื้นที่ของกองพลน้อย ที่ 1 , 2 และ 3 ของ KIA
อยู่
กกล.รัฐบาลเหล่านั้น
ก่อนที่จะกลับมาเจรจากับ KIA ได้อ้างเหตุผล
เรื่องเข้าปกครองเขตแดน แล้วเข้าโจมตีในพื้นที่กองพลน้อยที่ 1 ของ KIA ด้วยเหตุนั้น ในพื้นที่
บริเวณสองแควของแม่น้ำเอราวดี กับพื้นที่ปานวา จึงได้เกิดการปะทะกันยังรุนแรงขึ้น แม้ฝ่ายรัฐบาลยังทำสงครามต่อ
แต่ฝ่ายของตนนอกจากปกป้องตนเองแล้ว ห้ามตามไปโจมตีเป็นอันขาด ฝ่าย KIA ได้มีการสั่งการไว้ให้กับกกล.ของพวกเขาไว้อย่างนั้น
รัฐบาลพม่านั้น
แม้จะร้องกู่ก้องว่าหยุดยิงแล้วก็ตาม แต่การกระทำมั่วๆการแอบหาผลประโยชน์นั้น
ยังดำเนินการต่อ KIA กับ SSPP
อยู่อีก
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้นพากันกล่าว.
ในรัฐบาลเอง การกระทำที่ไม่ซื่อตรงมีอยู่อย่างนี้นั้นเอง ตอนนี้ ซ้ำยังสั่งการด้วยราชสารกับกลุ่มสร้างรัฐฉาน
RCSS อีกแล้ว
อีกอย่าง
รัฐบาลอยู่ในความสงบแล้ว มีความต้องการเพียงแค่เรื่องการหยุดยิงเท่านั้น แค่ในระดับรัฐเท่านั้น
ที่ยอมลงนามเซนสัญญาไว้
เรื่องการหยุดยิงจะได้มั่นคง
เพื่อจะได้เข้าสู่เรื่องสันติภาพระดับสากลอย่างแท้จริงนั้น ไม่มีความอดทนเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีความลึกซึ้งเลย
การเตรียมการเรื่องสันติภาพ 8 ข้อของรัฐบาลนั้น ยังเป็นหลักฐานอยู่
ต่างได้พากันกล่าวนำเสนอกัน
ที่ผ่านมานั้น
KIA หัวแข็งอยู่ เห็นเป็นเช่นนั้น แล้วในระยะหนึ่งเดือนจะต้องหมดสิ้นยังแน่นอน
ขณะที่ประธานาธิบดีเต็งเส่งเข้าประชุมอาเซียน ที่เมืองอินโดนีเซียนั้น
เคยกล่าวโอ้อวดไว้
อันนี้เป็นเจตนารมของรัฐบาลพม่า
ด้วยเหตุนั้นเอง
ทบทวนการกระทำของรัฐบาลกับระบบของรัฐบาลแล้ว
ในเรื่องสันติภาพแห่งชาติของรัฐบาลที่สร้างอยู่ในตอนนี้นั้น เกิดความสงสัยขึ้นแล้ว
สมาชิกของ UNFC ต่างกล่าวกัน
เนื่องจากเป็นอยู่อย่างนี้นี้เอง
ทาง KIA นั้น นอกจากระบบการหยุดยิงนั้น ได้ตระหนักถึงการเจรจาทางการเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์แล้ว
จึงต้องพยายามเข้าสู้รบอยู่อย่างนี้ จนท.อาวุฒโสของ KIA
นั้นกล่าว
ด้วยเหตุนั้น
การเจรจาทางการเมือง เพื่อจะได้ไกล่เกลี่ยกับอำนาจสิทธิ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ จะได้เกิดขึ้นโดยเร็วนั้น KIA
จึงพยามยามอยู่ เนื่องจากพยายามอยู่นั้นเอง เมื่อวันที่ 4 ก.พ 56 และวันที่ 11 มี.ค 56
จึงได้เจรจากับรัฐบาล ในระหว่าง วันที่ 10 เม.ย 56 กัน วันที่ 15 เม.ย 56 นั้น
มีแนวโน้มที่จะกลับมาทำการเจรจาอีกครั้ง.....
0 comments:
Post a Comment