หยุดยิงแล้ว ไม่ได้ขีดเส้นเขตแดนของรัฐไว้ อาจจะถูกโจมตีได้
อ้ายป้อน นักข่าวเอกชนมอญ: ศุกร์ ที่ 29 มี.ค 56
สำนักข่าวสารหงส์ทอง
กลุ่มผู้นำก่อตั้งรัฐฉาน
RCSS กับ
กกล.รัฐบาลที่ต้องเกิดการปะทะกันอยู่นั้น ในการหยุดยิงนั้น
เนื่องจากไม่ได้ขีดเส้นเขตแดนรัฐกันไว้นั้นเอง จึงต้องกลับมาปะทะกันอีก
ในการที่รัฐบาลชี้แจงอยู่อย่างนี้นั้น RCSS ยอมรับไม่ได้ พ.ต.ไซลองไส่ กล่าว
“คำพูดนี้ เมื่อวันที่ 20 มี.ค 56
ขณะที่จัดการประชุมเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพของรัฐฉานกับรัฐกะยา ที่เมืองลาโช
ในรัฐฉานนั้น อูอ่องมิน ได้กล่าวไว้ ในที่ประชุมนั้นเอง
แท้จริงแล้วไม่ใช่อย่างที่อูอ่องมินกล่าวหรอก ทุกครั้งที่เจรจากับพวกเขา
ฝ่ายเราจะนำเสนอเกี่ยวกับการตั้งฐานที่มั่นอยู่เป็นประจำ ทางพวกเขาเอง ตามข้อตกลง 5
ข้อที่ตกลงกันไว้ในระดับรัฐนั้น ไม่รักษาเงื่อนไข จึงต้องเกิดการปะทะกันอยู่อย่างนี้
” พ.ต. ไซลองไส่
กล่าว
RCSS/SSA กับรัฐบาลนั้น ขณะที่ตกลง ลงนามเซนสัญญาเรื่องหยุดยิงเมื่อวันที่ 19 พ.ย
ปี 2011 นั้น เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยนั้น
ตามที่กกล.ของทั้งสองฝ่ายให้อาศัยอยู่ตามเดิมต่อไป ได้ตกลงกันไว้อย่างนั้น
ด้วยเหตุนั้นเอง
ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมือง หรือ บนถนนรถยนต์
สำหรับกกล.รัฐบาลขออย่าได้หาเรื่องกับฝ่ายของ RCSS/SSA อีกได้มีการออกคำสั่งอย่างนั้นไว้แล้ว อย่างไรก็ตามฝ่ายกกล.รัฐบาลไม่เป็นไปตามนั้น
ไม่เคยส่งข่าวแต่อย่างใด เนื่องจากได้ล่วงล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ของ RCSS/SSA
นั้นเอง จนกระทั่งทุกวันนี้ จึงได้เกิดการปะทะกันถึง 50 กว่าครั้ง
เนื่องจากทางรัฐบาลได้สร้างสถานการณ์อย่างนี้อย่างนี้นี้เอง ไม่ยอมส่งข่าวอะไรเลยสักอย่าง แล้วทาง RCSS/SSA ได้ออกคำสั่งไว้ว่า หาก
กกล.รัฐบาลเข้ามาในพื้นที่ของตนหากไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ให้ยิงตอบโต้กลับไปได้ กกล. ของ RCSS/SSA
หากต้องไปทางพื้นที่ของกกล.รัฐบาล
ต้องส่งข่าวให้กกล.รัฐบาลทราบก่อนแล้วถึงจะไปไหนมาไหนได้ พ.ต.ไซลองไส่นั้นกล่าว
ทุกครั้งที่กกล.รัฐบาลโจมตีกกล.ของ RCSS/SSA มักจะอ้างว่า ไม่ได้แบ่งเส้นเขตแดนไว้ ได้กล่าวเผยแพร่ไว้ในข่าวอย่างนั้น ทาง RCSS/SSA แม้จึงขอแบ่งเส้นเขตแดนรัฐเป็นหลักเขต แต่ทางรัฐบาลไม่พูดอะไรเลย
ได้แต่นิ่งเงียบอยู่จนทุกวันนี้ นี่เป็นอุปนิสัยการกระทำในการหยุดยิงของรัฐบาลนั้นเอง
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารต่างกล่าววิพากวิจารกัน
ตอนนี้กกล.รัฐบาลได้ออกคำสั่งไว้
แล้วทำการโจมตีอยู่อย่างต่อเนื่อง
เพื่อที่จะได้ขีดเส้นเขตแดนเป็นพื้นที่ชัยภูมินั้น
ยังต้องทำการเจรจากันอีก เมื่อวันที่ 14
มี.ค 56 ที่ผ่านมานี้ ทาง RCSS/SSA
ได้เขียนหนังสือร้องขอไปยังรัฐมนตรี อูอ่องมิน
เพื่อที่จะได้พบปะทำการเจรจาในเรื่องนี้อีกครั้ง
สำหรับที่กลุ่มหยุดยิงไว้แล้วนั้น
รัฐบาลรัฐบาลไม่ควรที่จะวางกำลังและควรที่จะต้องขีดเส้นแบ่งเขตพื้นที่หึถึงจะถูก เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้นกล่าว ในกลุ่มที่หยุดยิงไว้แล้วนั้น
มีพรรคมอญใหม่กับกกล.กู้ชนชาติ ฉิ่น เท่านั้น ที่รัฐบาลได้ขีดเส้นแบ่งเขตแดนไว้ให้
พรรคมอญใหม่ได้ร้องขอไว้
27 แห่ง ได้รับ 23 แห่ง กกล.กู้ชนชาติฉิ่น CNF เอง เมื่อเดือน ธ.ค ปี 2012 ขณะที่ทำการเจรจากับอูอ่องมิน
ที่สำนักงานด้านสันตภาพในกรุงย่างกุ้งนั้น ได้ร้องขอไว้ 4 แห่ง รัฐบาลได้ตกลงให้ไว้ 3 แห่งเท่านั้น
ดูจากลักษณะนี้แล้ว
จุดที่ไม่ต้องจัดด้านการทหารนั้น รัฐบาลก็จะรับผิดชอบไว้
และจัดที่ให้ตั้งฐานที่มั่นได้ แต่สำหรับกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ ที่ต้องมีการเตรียมด้านการทหารอยู่นั้น ก็จะไม่รับผิดชอบ
ไม่อนุมัติให้ตั้งเขตพื้นที่อย่างเห็นได้ชัด
เหล่านักวิเคราะห์ด้านการทหารนั้นกล่าว
การไว้วางใจกับคำพูดของรัฐมนตรีอูอ่องมินเอง
ก็ตั้งมั่นอยู่ในเรื่องเล่นสงครามและเรื่องการเมืองของรัฐบาล กะเกณร์แล้วค่อยๆพูดออกมานั้น
ต่างก็ประเมินกันได้
ด้วยเหตุนั้นเอง
สำหรับ kia , knu, knpp, rcss, SSPP, tnla, pnloและกลุ่มที่ยังไม่ได้หยุดยิง
ที่อยู่ในรัฐฉานนั้น แม้จะหยุดยิงแล้วก็ตาม ใช่ว่าทางรัฐบาลจะยอมรับและจัดที่ตั้งฐานที่มั่นให้
เห็นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถึงจะหยุดยิงแล้ว
กลุ่มที่ยังไม่ได้เขตพื้นที่ตั่งฐานที่มั่นอย่างแน่นอนนั้น มีแนวโน้มที่จะถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ
ก็ว่าได้.....
RCSS/SSA appeal for the observation of terms outlined in cease-fire agreement with Myanmar government
Posted by: Aei Pone
Post Date : 25 March 2013
It
has been reported that the Restoration Council of Shan State in conjunction with the Shan State Army
(RCSS/SSA) has sent a request to the Myanmar government asking for clear
demarcations of military occupied areas in the region. The letter, which was
sent earlier in the week, asks for detailed terms that outline areas in Shan
state that are under government control.
According
to Major Sai Main, the RCSS/SSA met with U Aung Min in Thailand on February 19th to discuss a proposed ceasefire agreement. It
was during that meeting issues pertaining to the abuse of power from military
forces, a violation of stipulations outlined in the ceasefire agreement, were addressed.
“The
government has broken the agreement,” the Major commented. “We are requesting
clarification from them (Myanmar government) to detail the areas under their
control in order to avoid future conflict,” he added.
More than a year a ago, on December 2nd
2011, the RCSS, the political wing of
SSA signed the first ever agreement with
Myanmar government. Following the agreement, the two have met officially several
times to discuss the terms of the policy. Among the many agreements made by the
two sides, arguably the most important, includes the stipulation that the
RCSS/SSA must specify its active territories and has the power to build its headquarters. However the full
terms of the agreement have not yet gone to fruition, as the Myanmar army has
obstructed many of the policies, says a source from the RCSS/SSA.
The deadline of March 20, 2013 marked the
day the RCSS/SSA had to withdraw its bases from Loi Mut Nang Len in the east of
Salween, as instructed by deputy commander-in-chief of triangle region, said an
RCSS spokesperson.
“It is clear that they [Myanmar army] do
not want us to build our headquarters in Mongton. In fact, this area has been
one of our former bases; even this they do not want,” a Major of the RCSS/SSA
complained.
Although the RCSS/SSA and the Myanmar
Peacemaking Committee have signed a truce agreement at union level, conflict
ensues. There have been more than fifty
confirmed clashes between the two since terms of the cease-fire agreement were
established.
Ta’ang celebrate literature and culture
Posted By : Aei Pone
Post Date : 28 March
2013
March 26th commemorated the 10th anniversary
of the Ta’ang Literature Conference and
Shwe Phe Tea season festival. The festival was held in Mantung Township
in northern Shan state.
The celebration boasted about 10,000 attendees
and was held to increase awareness of Ta’ang literature and culture, according
to Tha Win Kyaw, a member of the Ta’ang Literature and Culture Organization and
the main organizer of the celebration. The festivities lasted from March 23 -
March 26.
Preservation of the Ta’ang culture and unity
within the group were the main topics of discussion during the conference.
Several attendees highlighted the importance of improved Ta’ang
literature and resurgence of ethnic pride.
Coordinator Tha Win Kyaw, commented that the
conference is usually held every 4 years, marking this anniversary as more than
40 years since the inception of the festivities. The conference was started by
Tha Paul San in 1972. It was during this
initial conference, the Ta’ang adopted
the Samlong language, one of the two main languages of the Ta’ang people (the
other being Rumai), as the universal text for literature within the ethnic
group.
In 1963,
the Palaung State Liberation Party (PSLP) started their struggle for equal
rights for the Ta'ang (Palaung) people, signing a cease-fire agreement with the
Myanmar government in 1991.
During
colonization of Myanmar’s southern regions, the Ta’ang people, fought against
outside forces and struggled for partial-autonomy. In the years of fighting for
rights, Taung-Paing Saw Bwa Khun Pan Sein collaborated with General Aung San. It
was during this time, the Palaung Nationalities United League was formed in
1946, but was later abolished by the Revolutionary Council of the military
regime in 1962.
The
Palaung National Force was formed on January 12th 1963. The then PSLF president, Tha Eik Phone is responsible for assigning Samlong as
the dominant language for the ethnic group’s literature; a tradition that is
still embraced.
The
Palaung National Force organized an armed revolution, resulting in the
formation of the 1976 Palaung State Liberation Army (PSLA) under the leadership
of Chairperson Tar Khon Taung, which defended the southern parts of the Palaung
regions. Upon the abolition of the PSLA, the Ta’ang National Party (TNP) was
formed with the former party members from the former PSLA and won 6 seats in
the parliament in 2010 election.
At present the Ta’ang people continue in their
struggle to preserve their culture and promote unity amongst their various
peoples.
Promotion of a common text and increased
participation in literature is expected to strengthen the ethnic group and
increase cultural awareness. The desire of the group is to proliferate Samlong
literature and hopefully organize a Ta’ang National Day in the future.
SSPP/SSA အား အစိုးရ စစ္ဆင္ေန
အာဲပိုန္ ၊ မတ္လ (၂၉) ရက္ေန႕
ယမာန္ေန႕ ညေနပိုင္း အခ်ိန္တြင္ ႐ွမ္းျပည္
ေျမာက္ပိုင္း၊ တန္႕ယန္းၿမိဳ႕နယ္႐ိွ ႐ွမ္းျပည္ တိုးတက္ေရး ပါတီ SSPP/SSA တပ္ဖြဲ႕ႏွင့္
အစိုးရ တပ္ဖြဲ႕တို႕ တပ္ဖြဲ႔တို႔သည္ လြယ္လန္း ႏွင့္ လြယ္ေစး ေတာင္ေၾကာ တဝိုက္၌ တိုက္ပြဲမ်ား
ျဖစ္ပြားခဲ့သည္ဟု အဖြဲ႕၏ ေျပာ ခြင့္ရ ဗိုလ္မွဴး စိုင္းလက ဆိုပါသည္။
“မတ္လ ၂၃ ရက္ေန႕ ကတည္းက အဲဒီေတာင္ကုန္း၂
ခုကို သူတို႕ တပ္ဖြဲ႕ေတြ တက္တိုက္ေနတာ မတ္လ ၂၅ ရက္ေန႕က်မွ နယ္ေျမ ႐ွင္းမယ္ ဆိုတာ အေၾကာင္းၾကားလာျပီး
၂၆ ရက္ေန႔အထိ ဆက္တိုက္ျပန္တယ္။ (၂၇) ရက္ေန႔မွာ တရက္နား ျပီးေတာ့ ၂၈ ရက္ေန႕ (၂) နာရီခြဲေလာက္မွာ
ျပင္းျပင္း ထန္ထန္ လာတိုက္ျပန္တယ္။” ဟု ဆိုပါသည္။
ဤတိုက္ပြဲမ်ားတြင္ အစိုးရ၏ လား႐ႈိဳးၿမိဳ႕
အေျခစိုက္ ခလရ ၂၉၁ ၊ ခလရ ၃၃ ခမရ ၃၂၆ တပ္ရင္းတို႕မွ အင္အား (၄၀၀) ခန္႕ျဖင့္ စစ္ေၾကာင္း
(၄) ေၾကာင္းဖြဲ႕ကာ လာေရာက္ တိုက္ခိုက္ခဲ့ျခင္း ျဖစ္ပါသည္။ တိုက္ပြဲတြင္ အစိုးရ ဖက္မွ
ထိခိုက္ ဒဏ္ရာ ရ႐ိွမႈမ်ားစြာ ရွိေသာ္လည္း အတိအက် မသိရေသးဟု ဆိုပါသည္။
အစိုးရသည္ ၄င္းတို႔၏ နယ္ေျမ ရွင္းလင္းမွဳ
စစ္ဆင္ေရး အစီစဥ္ကို ႐ွမ္းျပည္ အေ႐ွ႕ေျမာက္
ပိုင္းတိုင္း (ရမခ) တိုင္းမွဴးမွ တဆင့္ လား႐ိႈဳးၿမိဳ႕ေပၚ႐ိွ SSPP/SSA ဆက္ဆံေရး႐ုံးအား
အေၾကာင္းၾကား ခဲ့ပါသည္။ SSPP သည္ အစိုးရမွ ဤသို႔လုပ္လာ လိမ့္မည္ဟု နဂိုကတည္းက တြက္ဆ
ထားေၾကာင္း ဆိုပါသည္။
အစိုးရ တပ္ဖြဲ႔မ်ားသည္ ပထမတြင္ လြယ္လန္း
ေတာင္တန္း တဝိုက္ကို ေဖေဖာ္ဝါရီလ (၁၉) ရက္ေန႕၌ တိုက္ပြဲမ်ား
စတင္ခဲ့ျပီး ေဖေဖာ္ဝါရီ (၂၀) ရက္ေန႕တြင္ ထိုေနရာမွ ဆုတ္ခြာေပးရန္ ရာဇသံ ေပးခဲ့ပါသည္။
ဤရာဇသံကို (ရမခ) တိုင္း တာဝန္႐ိွ အရာ႐ိွႀကီး
တစ္ဦးမွ လား႐ိႈဳးၿမိဳ႕ ေပၚ႐ိွ SSPP/SSA ဆက္ဆံေရး႐ုံး တာ၀န္ခံအား အေၾကာင္းၾကား ခဲ့သည္။
SSPP သည္ တိုက္ပြဲမ်ား ဆက္လက္ ျဖစ္ပြား
လာသျဖင့္ သမၼတထံ စာေရး အေၾကာင္းၾကား ခဲ့ပါသည္။ စာကို ေဖေဖာ္ဝါရီလ ၂၀ ရက္ေန႕တြင္ တႀကိမ္ႏွင့္
ေဖေဖာ္ဝါရီလ (၂၂) ရက္ေန႕တြင္ တႀကိမ္ ႏွစ္ႀကိမ္ခန္႕ သမၼတအား အေၾကာင္းၾကား ခဲ့ပါသည္။
သို႕ေသာ္ သမၼတ၏ မည္သည့္ အေၾကာင္းျပန္ၾကားခ်က္မွ ယေန႕အထိ မရ႐ိွခဲ့ေသးေၾကာင္း ဗိုလ္မွဴး
စိုင္းလက ဆိုပါသည္။
တိုက္ပြဲမ်ားသည္ ေဖေဖာ္ဝါရီလ ၂၁ ၊ ၂၂
ႏွင့္ ၂၃ ရက္ေန႕အထိ ဆက္တိုက္ ျဖစ္ပြား လာခဲ့ရာမွ သမၼတ ဦးသိန္းစိန္၏ မတ္လ ျပည္ပ ခရီးစဥ္
အတြင္းတြင္ ေခတၲ ရပ္ဆိုင္းသြားသည္ဟု ဆိုရေသာ္လည္း မတ္လ ၁၂ ရက္ေန႕ႏွင့္၊ ၁၃ ရက္ေန႕တြင္ တပ္ရင္း (၃) ရင္းျဖင့္ SSPP လြယ္ေစး
ေတာင္တန္း စခန္းအား ႏွစ္ႀကိမ္တိုင္ တိုက္ခိုက္ ခဲ့ပါသည္။
ဤကဲ့သို႔ တိုက္ပြဲမ်ား ရပ္ဆိုင္း ထားခ်ိန္တြင္လည္း
အစိုးရ စစ္ဆင္ေရး ကြပ္ကဲမႈ ဌာနခ်ဳပ္ (စကခ) (၁၇) မွဴး ကိုယ္တိုင္ ဦးေဆာင္ေသာ တပ္မႏွင့္
အေျမာက္တပ္တို႕သည္ ေဖေဖာ္ဝါရီလ ၂၇၊ ၂၈ ရက္ေန႕တြင္ မိုင္း႐ႈဳးၿမိဳ႕၀န္းက်င္၌ ထပ္မံ အင္
အားျဖည့္ ဆည္းခဲ့ပါသည္။ အလားတူ လား႐ႈိ႕းၿမိဳ႕နယ္ႏွင့္ ကြန္ဟိန္းဖက္မွ ထြက္လာေသာ တပ္မ်ားထဲ၌
သံခ်ပ္ကာ ကား ၂ စီး အပါ၀င္ တင့္ကား ၂ စီး ပါ၀င္ေၾကာင္း မ်က္ျမင္ ေဒသခံ တစ္ဦးက ဆိုပါသည္။
ထို႔အျပင္ အေ႐ွ႕ေျမာက္ပိုင္းတိုင္း စစ္ဌာနခ်ဳပ္
(ရမခ) လက္ေအာက္ခံ ေလာက္ကိုင္ ေဒသ ကြပ္ကဲမွဳ စစ္ဌာနခ်ဳပ္ (ဒကစ) မွ တပ္ရင္း ၆ ရင္းလည္း
တန္႕ယန္းၿမိဳ႕နယ္ ပတ္ဝန္းက်င္ႏွင့္ မိုင္းေကာင္း ၿမိဳ႕နယ္ၾကား တို႕၌ အင္အား
ျဖည့္တင္း ေနရာ ယူ ထားခဲ့ပါသည္။
အလားတူ SSPP/SSA ဝမ့္ဟိုင္း ဗဟိုဌာနခ်ဳပ္
ပတ္ပတ္ လည္တြင္လည္း အေ႐ွ႕ ပိုင္းတိုင္း စစ္ဌာနခ်ဳပ္ ရပခ တိုင္းလက္ ေအာက္ခံ စကခ ၁၇ တပ္ရင္းမ်ား
ႏွင့္ အေ႐ွ႕ အလယ္ပိုင္းတိုင္း စစ္ဌာနခ်ဳပ္ ရပခ တိုင္းလက္ေအာက္မွ စကခ ၂ တပ္ရင္း (၁၀)
ရင္းခန္႕ နဂိုကတည္းက ေနရာ ယူထားသည္ဟု SSPP/SSA က ဆိုပါသည္။
ဤသို႕ေသာ အေျခအေနမ်ားေၾကာင့္ SSPP သည္ ႏိုင္ငံေတာ္ လုံၿခံဳေရး ဝန္ႀကီး ဦးေအာင္မင္းအား
ထပ္မံ စာေရး အေၾကာင္းၾကား ခဲ့ျပန္ပါသည္။ အေၾကာင္း ထူးလာျခင္း မရွိသည့္အျပင္ ထိုေတာင္တန္းအား
႐ွင္းလင္းေတာ့မည္ ျဖစ္ ေၾကာင္း မတ္လ ၂၃ ရက္ေန႕တြင္ တိုက္ပြဲမ်ား ျပန္လည္ ျဖစ္ပြား လာခဲ့ပါသည္။
ဤသို႔ေၾကာင့္ SSPP ေဒသတြင္ အစိုးရ တပ္အင္အား
(၅၀၀၀) ထက္မနဲ ေနရာ ယူထားေၾကာင္း စစ္ေရး အကဲခတ္မ်ားက ဆို ပါသည္။ ဤအေျခအေနကို ၾကည့္ျခင္း
အားျဖင့္ အစိုးရသည္ KIA အား စစ္ဆင္ျပီးေနာက္ SSPP အား ထပ္မံ စစ္ဆင္ သြားမည့္ အေျခအေနျဖစ္ေနေၾကာင္း
တြက္ဆၾကပါသည္။
SSPP သည္ ၂၀၁၂ ခုႏွစ္ ဇႏၷာဝါရီလ (၂၈)
ရက္ေန႕တြင္ အစိုးရႏွင့္ အပစ္အခတ္ ရပ္စဲေရး သေဘာတူ လက္မွတ္ ေရးထိုး ခဲ့ၾကပါသည္။ ဤကဲ့သို႔
အပစ္အခတ္ ရပ္စဲ ထားေသာ္လည္း အစိုးရသည္ SSPP အား အႀကိမ္(၁၀၀) ေက်ာ္ တိုက္ခိုက္ခဲ့ သည္ဟု SSPP က ဆိုပါသည္။
0 comments:
Post a Comment